ภูมิหลัง ของ การอดอาหารประท้วงในประเทศไอร์แลนด์ ค.ศ. 1981

เทเรนซ์ แม็กสไวนี ผู้นิยมสาธารณรัฐไอร์แลนด์ อดอาหารจนเสียชีวิตในทัณฑสถานบริกซ์ทันในปี 1920

การประท้วงด้วยการอดอาหารในประเทศไอร์แลนด์เป็นธรรมเนียมที่ปรากฏมาตั้งแต่สมัยก่อนศาสนาคริสต์[4] มีการประท้วงอดอาหารของนักโทษผู้นิยมสาธารณรัฐไอร์แลนด์มาตั้งแต่ปี 1917 และมีผู้เสียชีวิตขณะอดอาหารประท้วงมาแล้ว 12 รายก่อนหน้า[5] ได้แก่ ธอมัส แอช, เทเรนซ์ แม็กสไวนี, ไมเคิล ฟิทซ์เจอรัลด์, โจ เมอร์ฟี, เดนนี บารี, ฌอน แม็กคอกี, ไมเคิล กอกาน และ แฟรงค์ สแตกก์[5] ภายหลังการเริ่มใช้การกักกันในปี 1971 สถานกักกัน ลอง เคช (Long Kesh) หรือต่อมารู้จักในชื่อทัณฑสถานเอชเอมเมซ ได้ถูกนำมาใช้สำหรับนักโทษสงคราม[6] โดยผู้ถูกกักกัน (internees) อาศัยในหอพักและปฏิบัติตนภายใต้รูปแบบโครงสร้างการสั่งการแบบกองกำลัง, ฝึกฝนทางทหารด้วยปืนปลอมทำจากไม้ และเรียนรู้เกี่ยวกับการรบแบบกองโจรและการเมือง

นักโทษที่ถูกตัดสินแล้วถูกปฏิเสธการได้รับสิทธิเช่นเดียวกับผู้ถูกกักกัน จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคม 1972 ที่ซึ่งประกาศใช้สถานภาพกลุ่มพิเศษ ภายหลังการอดอาหารประท้วงของนักโทษ 40 คนจากกองทัพเฉพาะกาลสาธารณรัฐนิยมไอริช (IRA) นำโดยทหารผ่านศึก บิลลี แม็กคี สถานภาพกลุ่มพิเศษ หรือสถานะทางการเมืองนี้หมายความว่านักโทษจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับนักโทษสวคราม เช่น ไม่ต้องสวมเครื่องแบบทัณฑสถานและไม่ต้องทำหน้าที่ในทัณฑสถาน[6] เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 1976 เมอร์ลีน รีส์ รัฐมนตรีแห่งไอร์แลนด์เหนือภายใต้รัฐบาลของวิลซันประกาศว่าผู้ที่ถูกตัดสินด้วยความผิดฐานก่อการร้ายจะไม่ได้รับสถานภาพกลุ่มพิเศษอีกต่อไป[1] นโยบายนี้ไม่ได้นำมาใช้กับนักโทษเดิม แต่จะนำมาใช้กับผู้ที่ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 1 มีนาคม 1976[7] การยกเลิกสถานภาพนี้เป็นภัยร้ายแรงต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งมีการนำของกองกำลังกึ่งกองทัพภายในทัณฑสถานสามารถมีต่อกำลังพลของตน เช่นเดียวกับการใช้โฆษณาชวนเชื่อ[6]

การประท้วงผ้าห่มและการประท้วงสกปรก

ทอมมี แม็กเคียร์นีผู้ประท้วงผ้าห่ม, สกปรก และอดอาหารในปี 1980

ในวันที่ 14 กันยายน 1976 นักโทษใหม่ คีรัน นิวเจนท์เริ่มการประท้วงผ้าห่ม ที่ซึ่งนักโทษจาก IRA และกองกำลังแห่งชาติปลดปล่อยไอร์แลนด์ (INLA) ปฏิเสธการสวมใส่เครื่องแบบนักโทษ และเลือกเปลือยหรือใช้ผ้าห่มเป็นเครื่องนุ่งห่มแทน[7] ในปี 1978 หลังการปะทะจำนวนหนึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานและนักโทษซึ่งออกจากห้องขังเพื่ออาบน้ำและ "ระบายของเสีย" (slop out) ได้กลายเป็นการประท้วงสกปรก ที่ซึ่งนักโทษปฏิเสธการออกไปอาบน้ำและเริ่มนำเอาอุจจาระละเลงบนผนังของห้องขัง[8] การประท้วงเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องสถานะทางการเมืองกลับมาตาม "หลักห้าประการ" (Five Demands):

  1. สิทธิในการไม่ต้องสวมเครื่องแบบนักโทษ
  2. สิทธิในการไม่ต้องปฏิบัติงานของทัณฑสถาน
  3. สิทธิในการสมาคมกับนักโทษอื่น และในการจัดกิจกรรมทางการศึกษาและนันทนาการ
  4. สิทธิในการได้รับผู้เข้าเยี่ยมหนึ่งคน, จดหมายหนึ่งฉบับ และ พัสดุหนึ่งซองต่อสัปดาห์
  5. การรื้อฟื้นการลดโทษที่หายไปขณะประท้วงทั้งหมด[9]

ในช่วงแรก การประท้วงไม่ได้รับความสนใจมากนัก และแม้แต่ IRA ยังเชื่อว่านี่เป็นเพียงปัญหาข้างเคียง และเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแคมเปญติดอาวุธของกลุ่ม[10][11] การประท้วงเริ่มได้รับความสนใจหลังโทมาส โอ ไฟเอช อาร์คบิชอปแห่งอาร์มาก์เดินทางเยี่ยมทัณฑสถานและประนามสภาพของห้องขังที่นั่น[12] ในปี 1979 อดีตสมาชิกรัฐสภาเวอร์นาเดทท์ แม็กอะเลิสคีลงเลือกตั้งรัฐสภายุโรปโดยสนับสนุนการประท้วงของนักโทษ และได้รับคะแนนเสียง 5.9% จากไอร์แลนด์เหนือ ถึงแม้ว่าชินเฟน จะประกาศให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ[13][14]

การประท้วงอดอาหารปี 1980

ในวันที่ 27 ตุลาคม 1980 เริ่มการประท้วงอดอาหาร มีนักโทษรวม 148 คนอาสาเป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงนี้ แต่ท้ายที่สุดมีเพียงเจ็ดคนที่ถูกคัดเลือกเพื่อให้เท่ากับจำนวนผู้ลงนามในประกาศสาธารณรัฐเมื่ออีสเตอร์ปี 1916[15][16] ประกอบด้วยสมาชิก IRA คือ เบรนดัน ฮิวส์, ทอมมี แม็กเคียร์นี, เรย์มันด์ แม็กคาร์ที, ทอม แม็กฟีลี, ฌอน แม็กเคนนา, ลีโอ กรีน และสมาชิก INLA จอห์น นิกซัน[16]

ในวันที่ 1 ธันวาคม นักโทษสามรายที่คุกสตรีอาร์มากเข้าร่วมการประท้วงอดอาหาร ในจำนวนนี้รวมถึงไมเรด ฟาร์เรล ท่ามกลางสงครามประสาทระหว่างแกนนำ IRA กับรัฐบาลบริเตนนี้ แม็กเคนนาทรุดโทรมลง เข้าสู่ภาวะโคมา และเกือบเสียชีวิต รัฐบาลมีท่าทีจะยอมรับข้อเรียกร้องห้าประการภายใต้เอกสารขนาดสามสิบหน้าซึ่งระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลง ขณะเอกสารกำลังเดินทางไปยังเบลฟาสท์ ฮิวส์ตัดสินใจที่จะช่วยชีวิตแม็กเคนนาและสิ้นสุดการประท้วงอดอาหารในวันที่ 18 ธันวาคม รวมระยะเวลา 53 วัน[9]

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: การอดอาหารประท้วงในประเทศไอร์แลนด์ ค.ศ. 1981 http://www.anphoblacht.com/news/detail/15153 http://www.anphoblacht.com/news/detail/4616 http://www.irishecho.com/search/searchstory.cfm?id... http://www.stailc.com http://indiamond6.ulib.iupui.edu:81/bobbysandsstre... http://www.bobbysands.ie //www.jstor.org/stable/260640 http://republican-news.org/archive/2001/March08/06... http://www.ark.ac.uk/elections/fe79.htm http://cain.ulst.ac.uk/events/hstrike/chronology.h...